การใช้งาน AI หรือปัญญาประดิษฐ์นั้น แม้จะถูกใช้งานเป็นอย่างมากทั้งในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ตลอดจนธุรกิจ และหน่วยงานรัฐบาล ก็มักจะตกเป็นเป้าในการถกเถียงกันอยู่เสมอว่าจะเข้ามาช่วยหรือทำลายวิถีชีวิตของมนุษย์กันแน่ วันนี้ก็ได้มีการวิจัยในประเด็นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากรายงานบนเว็บไซต์ Nature ได้ทำการอ้างอิงถึงงานวิจัยที่ได้มีการวัดความเห็นจากกลุ่มนักวิจัยที่มาจากชาติต่าง ๆ ถึง 4,260 ราย ถึงประโยชน์ และโทษจากการใช้งาน AI ซึ่งตัวงานวิจัยฉบับเต็มนั้นมีการสำรวจความเห็นจากหลายมุมมอง เช่น
บทความเกี่ยวกับ Computer อื่นๆ
มุมมองด้านประโยชน์ของการใช้งาน AI แตกต่างกันไปตามประเทศ
ในแง่มุมนี้ นักวิจัยจากชาติต่าง ๆ นั้นล้วนแต่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่ในภาพ อย่างเช่น นักวิจัยจากประเทศจีนมากกว่า 70% นั้นมีความเห็นว่าการใช้งาน AI จะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดยมีเพียงแค่ 10 % กว่า ๆ เท่านั้นที่มองว่าการใช้งาน AI จะมีความเสี่ยงเชิงลบมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ ขณะที่นักวิจัยจากสหราชอาณาจักร (UK หรือ United Kingdom) กลับมีความเห็นกึ่ง ๆ ที่ส่วนหนึ่งมองว่าการใช้งานนั้นจะได้ประโยชน์มากกว่าโทษ ราว ๆ 40% และอีกประมาณ 30% กลับมองว่า การใช้งาน AI ทั้งประโยชน์และโทษมีอยู่เท่ากัน
ภาพจาก : https://www.nature.com/articles/d41586-025-01123-x
มุมมองว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตได้อย่างไร ?
สำหรับในภาคนี้นั้นจะมีการสำรวจในประเด็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตจากการใช้งาน AI ทั้งในเชิงบวก และลบจากมุมมองของนักวิจัยจากสหราชอาณาจักรต่อ AI อย่างเช่น ในเชิงบวกนั้นนักวิจัยเห็นตรงกันถึง 70% กว่าว่าการเข้ามาของ AI จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการเรียนรู้ได้มากขึ้น ตามมาด้วยการช่วยให้งานต่าง ๆ ง่ายลง และ ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ดีขึ้น
แต่ในเชิงลบนั้น ทางนักวิจัยมากกว่า 75% มองว่า AI จะช่วยทำให้ข่าวปลอมแนบเนียนมากขึ้นจนแยกแยะได้ลำบาก ตามมาด้วยความกังวลถึงความเสี่ยงในการถูกนำเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้งาน และความเสี่ยงจากการก่อการร้ายทางไซเบอร์ที่อาจมีมากขึ้นจากการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีนำเอา AI ไปใช้ในปฏิบัติการของตนเอง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานวิจัยนี้ที่เปิดเผยต่อสาธารณะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น ซึ่งถ้าผู้อ่านรายใดสนใจในรายงานวิจัยฉบับเต็ม สามารถสมัครสมาชิก หรือใช้สิทธิ์นักศึกษา และบุคลากรมหาวิทยาลัย (สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากห้องสมุดของมหาวิทยาลัยที่สังกัด) เพื่อทำการศึกษาต่อไปได้
ที่มา : www.nature.com
Leave a comment