ถึงแม้ไมโครซอฟท์จะประกาศครั้งแล้วครั้งเล่าให้ผู้ใช้งานนั้นเปลี่ยนจากระบบปฏิบัติการ Windows 10 ไปใช้งาน Windows 11 แต่ด้วยปัญหาอันมากมายในการอัปเกรด และในด้านการใช้งาน ทำให้หลายรายยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการใช้งาน นำมาสู่การเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ที่แลดูแปลกประหลาดในครั้งนี้

จากรายงานโดยเว็บไซต์ PC World ได้รายงานว่า ผู้ใช้งานบางส่วนนั้นได้มีรายงานว่าเริ่มได้รับอีเมลจากทางไมโครซอฟท์ แจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานทำการอัปเกรดจาก Windows 10 ไปเป็น Windows 11 โดยกลุ่มผู้ที่ได้รับอีเมลนั้นจะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานที่ทางไมโครซอฟท์ตรวจพบว่ายังมีการใช้งาน Windows 10 อยู่ หลังจากที่ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าการสนับสนุนด้านความปลอดภัยของ Windows 10 นั้นจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมปีนี้

โดยหัวข้อของอีเมลที่ส่งมาคือ “End of support for Windows 10 is approaching.” หรือ Windows 10 ใกล้จะสิ้นสุดการได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัยแล้ว โดยในบนตัวอีเมลนั้นจะมีอยู่ 2 ปุ่ม คือ ปุ่มแรกจะมีข้อความว่า “Check Upgrade Eligibility” ซึ่งเป็นปุ่มที่ใช้ในการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ได้รับว่าสามารถอัปเกรดได้หรือไม่ ? และอีกปุ่มคือ “Explore new computers” หรือ เลือกชมคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ซึ่งคาดว่าถูกทำขึ้นมาเพื่อชักชวนให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ไม่สามารถอัปเกรดขึ้นเป็น Windows 11 ได้เลือกหาซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่สามารถใช้งาน Windows 11 ได้

ภาพจาก : https://www.windowslatest.com/2025/03/19/microsoft-emails-windows-10-deadline-warning-urges-windows-11-upgrade/

นอกจากนั้น ยังมีส่วน FAQ (Frequently Asked Questions หรือ คำถามที่ถูกถามบ่อย ๆ) ซึ่งจะเป็นชุดคำถามคำตอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการสิ้นสุดการได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัยของ Windows 10 ซึ่งหนึ่งในชุดคำถามนั้น ก็ได้มีการพยายามชักชวน โดยกล่าวว่า คอมพิวเตอร์เครื่องเก่านั้นจะยังใช้ Windows 10 ได้ ถึงแม้ตัว Windows ได้ถูกหยุดได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่ตัว Windows ที่ใช้งานนั้นจะไม่ทนทานต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์อีกต่อไป รวมถึงมีการพยายามอวดอ้างว่า Windows 11 นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยสูงสุดในปัจจุบันอีกด้วย

ซึ่งแหล่งข่าวก็ได้สนับสนุนการอัปเกรดขึ้นเป็น Windows 11 เนื่องด้วยประเด็นด้านความปลอดภัย แต่ก็แนะนำว่า สำหรับผู้ที่ไม่พร้อม ให้ทำการซื้อแพ็คเกจการสนับสนุนพิเศษจากทางไมโครซอฟท์ที่จะเริ่มเปิดขายในเดือนตุลาคมปีนี้ เพื่อยืดอายุการได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัยไปอีก 1 ปี และถ้าเกินจากนั้นแล้วยังอยากใช้ต่อ ให้หาซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์มาติดตั้ง พร้อมทั้งใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านบริการ VPN (Virtual Private Nerwork) จากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยของตัวระบบแทน

ที่มา : www.pcworld.com