Google เริ่มปล่อย AI สำหรับตรวจจับข้อความ Scam บน Android ให้ใช้งานแล้ว

หนึ่งปัญหาในการใช้งานโทรศัพท์มือถือคือ การตรวจว่าข้อความที่ถูกส่งมาผ่านทางข้อความสั้น (SMS หรือ Short Message Service) นั้นมาจะกลุ่มมิจฉาชีพ หรือ Scammer หรือไม่ ทำให้ทาง Google ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Android ต้องลงมามีส่วนร่วมในการจัดการกับประเด็นนี้โดยตรง

จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Hacker News ได้รายงานถึงการประกาศจากทาง Google ที่จะนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยในการจับข้อความหลอกลวง หรือ Scam ต่าง ๆ บน Android เนื่องจากหลายครั้งนั้นมิจฉาชีพมักจะเริ่มต้นด้วยข้อความที่ดูไม่เป็นพิษภัย ทำให้เดาทางได้ว่าเป็นพวกหลอกลวงหรือไม่

บทความเกี่ยวกับ Google อื่นๆ

ซึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้นั้น ทาง Google ได้มีการค้นคว้าร่วมกับองค์กรด้านการเงินที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ หลากองค์กร เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่กระทำต่อลูกค้าของทางองค์กร เพื่อนำเอามาพัฒนาขีดความสามารถของตัว AI ให้มีความสามารถในการตรวจจับพฤติกรรมของมิจฉาชีพได้อย่างหลากหลาย และสามารถเตือนได้ตามเวลาจริง (Real-Time) ถึงแม้บทสนทนาระหว่างเหยื่อ และผู้ใช้งานจะกำลังดำเนินอยู่ก็ตาม

Google เริ่มปล่อย AI สำหรับตรวจจับข้อความ Scam บน Android ให้ใช้งานแล้ว
ภาพจาก : https://thehackernews.com/2025/03/google-rolls-out-ai-scam-detection-for.html

นอกจากการเตือนแล้ว ผู้ใช้งานจะยังมีตัวเลือกในการจัดการกับข้อความหลอกลวงดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการปิดข้อความแจ้งเตือน (Dismiss), รายงาน (Report) หรือบล็อกคู่สนทนา (Block) โดยค่าเริ่มต้นของตัว AI นั้นจะปรับให้มีการตรวจจับและแจ้งเตือนกับทุกข้อความที่มาจากผู้ติดต่อที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้บนสมุดบันทึกข้อมูลติดต่อ (Contact List) สำหรับในส่วนการรายงานนั้น ทาง Google ได้ยืนยันว่าจะรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างเป็นที่สุด โดยข้อมูลที่จะถูกส่งในการรายงานนั้นจะเป็นแค่ตัวตนของคู่สนทนา และข้อความล่าสุดที่พูดคุยกันเท่านั้น ไม่เป็นการส่งทั้งบทสนทนาแต่อย่างใด ซึ่งข้อมูลจะถูกส่งให้แค่ 2 ฝ่าย คือ ผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์ และทาง Google เท่านั้น

โดยฟีเจอร์นี้ ปัจจุบันเริ่มเปิดให้ทดลองให้งานแล้วใน สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และสหราชอาณาจักร (หรืออังกฤษ) ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษเท่านั้น สำหรับการใช้งานในภูมิภาคอื่นนอกจากนี้นั้น ขอให้ผู้ที่สนใจคอยติดตามข่าวอย่างเป็นทางการจาก Google ต่อไป

ที่มา : thehackernews.com

Leave a comment