Figma เปิดตัว 4 แอปใหม่ พร้อมฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้ครบจบที่เดียวพร้อมฟีเจอร์ AI

ในปัจจุบันถ้าพูดถึงซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานสร้างสรรค์รูปภาพนั้น นอกจาก Adobe Creative Suite และ Canva แล้ว Figma ก็เป็นหนึ่งในเบอร์ต้น ๆ ที่มักถูกพูดถึงกัน โดยขณะนี้ทาง Figma ได้นำเอา AI เข้ามาใช้งานพร้อมตั้งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในวงการ

จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Verge ได้กล่าวถึงการที่ทาง Figma ได้ทำการปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมาถึง 4 ตัวนั่นคือ Figma Draw, Buzz, Make, และ Sites ที่จะครอบคลุมการวาดรูป, สร้างเว็บไซต์, ทำการตลาดเชิงแบรนด์ และการเขียนโค้ด AI แบบครบจบที่เดียวโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันอื่น ๆ (One-Stop-Shop) โดยเป็นการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วนั่นคือ Figma Design, Slides, และ FigJam ที่ครอบคลุมแค่เพียงการสร้างต้นแบบเพื่อที่จะนำไปต่อยอดในเครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์อื่น ๆ เช่น WordPress ต่อไป และสำหรับการจัดการสร้างแบรนด์อย่างเช่นโลโก้ต่าง ๆ นั้น ก็จำเป็นต้องนำไปต่อยอดบนเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Adobe Illustration ซึ่งจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย และไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้งาน

แต่ในการปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้ Figma มุ่งเน้นไปในการสร้างความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างครบวงจร โดยเริ่มจาก Figma Sites ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่มีการเชื่อมต่อกับ Figma Design ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้งานหลังจากที่ออกแบบเว็บไซต์บน Figma Design เรียบร้อยแล้ว สามารถส่งต่อเพื่อแสดงผลบนเว็บไซต์จริงได้ทันที ซึ่ง Figma Sites นั้นจะเต็มไปด้วยเครื่องมือตัวช่วยต่าง ๆ เพื่อให้การสร้างเว็บไซต์เป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เช่น Templates, Blocks, Layouts และ Interaction ต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือ AI ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสั่งการให้เขียนโค้ดให้ผ่านทางคำสั่งง่าย ๆ (Prompt) เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่มีสีสัน มีเอกลักษณ์ ความน่าสนใจมากขึ้นไปกว่าเดิมโดยที่การใช้งานนั้นง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก โดยตัว Figma Sites ปัจจุบันได้ทำการปล่อยให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานในเวอร์ชันทดสอบ (Beta) เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับผู้ที่จ่ายเงินใช้งาน Figma แบบเต็มรูปแบบ (Full Seat) เท่านั้น โดยฟีเจอร์ด้าน AI จะถูกปล่อยให้ทดสอบใช้งานได้ในเร็ว ๆ นี้

สไลด์รูปภาพ

สำหรับ Figma Make นั้นจะเป็นการใช้งานสำหรับเขียนโค้ดร่วมกับ AI คล้ายคลึงกับ Google Gemini Code Assist และ Microsoft GitHub Copilot โดย Figma Make นั้นจะใช้เทคโนโลยีของ Anthropic Claude 3.7 เข้ามาช่วยงานในรูปแบบใช้ Prompt เพื่อเขียนโค้ด (Prompt-to-Code) ทำให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถเขียนแอปพลิเคชันต้นแบบได้อย่างง่ายดาย และเช่นเดียวกัน แอปพลิเคชันใหม่นี้ยังคงอยู่ในขั้นการทดสอบ โดยผู้ใช้งานนั้นจะต้องเป็นผู้ใช้งานแบบ Full Seat เท่านั้น

ในส่วนของ Figma Buzz จะเป็นแอปพลิเคชันที่มุ่งเน้นไปในด้านการใช้งานเพื่อการทำคอนเทนต์การตลาดในรูปแบบเดียวกับ Canva ซึ่งทางบริษัทได้อ้างว่า Figma Buzz นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบคอนเทนต์ที่เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์มตั้งแต่โซเชียลมีเดีย, อีเมล และช่องทางการตลาดอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวแอปพลิเคชันนั้นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI เช่นเดียวกันกับแอปพลิเคชันตัวอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งคอนเทนต์ได้อย่างง่ายได้เพียงแค่สั่งการผ่าน Prompt เท่านั้น รวมทั้งสามารถสร้างคอนเทนต์ตามที่ใส่รายละเอียดไว้บนไฟล์แบบสเปรดชีท ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างคอนเทนต์จำนวนมากในเวลาที่ไม่นานนักได้

และท้ายสุด Figma Draw ที่มีความสามารถในการสร้างรูปแบบเวคเตอร์ (Vector) ที่คล้ายคลึงกับ Adobe Illustration แต่ใช้งานได้ง่ายกว่า ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบรูปภาพที่ต้องการใช้งานเพิ่มเติมได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้งานแอปพลิเคชันอื่น ๆ นอกจากชุดผลิตภัณฑ์ของ Figma แต่อย่างใด และอีกเช่นเดียวกัน Figma Draw นั้นปัจจุบันยังเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งาน Figma แบบ Full Seat เท่านั้น โดยจะทำงานในรูปแบบตัวเสริม (Toggle) บน Figma Design พร้อมฟีเจอร์การใช้งานบางส่วนของ Figma Sites, Slides และ Buzz

ที่มา : www.theverge.com

Leave a comment